พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เป็นการนำเอาไม้จริงมาแปรรูปด้วยเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมขั้นสูง โดยได้ผิวไม้มีความหนา 3-4 มม. มาอัดกับไม้เสี้ยนประสานสลับชั้นกันกับน้ำกาวคุณภาพสูงจนได้ขนาด 14 มม. แล้วนำไปอบควบคุมความชื้นไม่เกิน 12 % เคลือบผิวด้วย UV Acrylic Lacquer เพื่อให้ได้ลายไม้ที่ชัดเจนและมีความแข็งแรง
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
การผลิตพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการบิดงอหรือขยายตัวง่ายของไม้จริง โดยพื้นไม้เอ็นจิเนียร์นั้นจะมีความคงตัวสูง ไม่ยืด หด ห่อขยายตัวง่าย ซึ่งการติดตั้งก็สามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องไปขัดสีหน้างาน ซึ่งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายได้แก่ ไม้โอ๊ค ไม้สัก ไม้ค่า ซึ่งราคาจะสูงตามประเภทของไม้
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ เป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบระหว่างความสวยงามตามธรรมชาติของไม้จริงให้เลือกและเทคโนโลยีเฉพาะ ผ่านการผลิตที่ได้มาตฐาน ปิดผิวด้วยลายไม้จริงเกรด A มีสีและลวดลายหลากหลาย เหมาะกับการตกแต่งทุกสไตล์ เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นในเมืองไทย มีอัตราการพองตัวและบิดโก่งต่ำ โครงสร้างไม้ผ่านการอบแห้งที่ได้มารตฐานและอัดน้ำยากันปลวก ผิวหน้าแข็งแรง ทนทานด้วยการเคลือบสียูวีอะคริลิค
พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่ผลิตได้คุณภาพมาตรฐาน
การเลือกพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ไปใช้งาน ควรเลือกซื้อจากแบรนด์ที่ผลิตได้คุณภาพมาตรฐาน เพื่อให้มีความสวยงามและใช้งานได้ในระยะยาว ควรสังเกตที่ความหนาของผิวหน้าไม้ชั้นบน ซึ่งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ที่มีความหนาจะมีความแข็งแรงคงทนมาก และสามารถขัดทำสีใหม่ได้หลายครั้ง แต่หากมีผิวหน้าไม้บางกว่านี้ เช่น ความหนาไม่ถึง 1 มม. ก็อาจมีคุณภาพความแข็งแรงต่ำกว่าและไม่สามารถขัดทำสีใหม่ได้
การติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ สามารถติดตั้งได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นหน้างานว่าเรียบได้ระดับเพียงใด และความเหมาะสม โดยทีมช่างผู้ชำนาญจะเป็นผู้ประเมินว่าพื้นที่แต่ละแบบเหมาะสมกับการติดตั้งพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ด้วยวิธีใด